ลักษณะชีวิตคริสเตียน
คริสเตียนในยุคปัจจุบันนี้ กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการทำงานขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้ากำลังเทฤทธิ์เดชของพระองค์ลงมาเหนือคริสตจักรในทุกแห่งของโลก ในยุคเช่นนี้มีความจำเป็นเร่งด่วนที่เราจะเน้นการสอนเรื่อง ลักษณะชีวิตคริสเตียน ให้มาก เพื่อเราจะมีความสมดุลย์ระหว่างของประทานพระวิญญาณกับผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อว่าชีวิตของเราจะรองรับฤทธิ์เดชของพระเจ้าได้
หลายครั้งคริสเตียนที่รับใช้พระเจ้าได้ปฎิเสธสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเน้นบางสิ่งมากกว่าสิ่งอีกสิ่งหนึ่ง ทำให้เป็นคริสเตียนที่ไม่สมดุลย์ บางคนเน้นพัฒนาผลพระวิญญาณและดูถูกพี่นอ้งที่ไม่ทำเหมือนตน โดยลืมมองไปว่า ตนเองก็ได้ละเลยสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่พระเจ้าเน้นเช่นกัน คือ การแสวงหาของประทาน
1 คร.14:1 "จงมุ่งหาความรัก และขวานขวายของประทานฝ่ายพระวิญญาณด้วยความจริงใจ เฉพาะอย่างยิ่งการเผยพระวจนะ"
1 ปต.4:10 "ตามซึ่งทุกคนได้รับของประทานที่ทรงประทานให้แล้ว ก็ให้ใช้ของประทานนั้นเพื่อประโยชน์แก่กันและกัน เป็นผู้รับมอบฉันทะที่ดี ที่แจกจ่ายและสำแดงพระคุณนานาประการของพระเจ้า"
ในทางตรงกันข้ามบางคนเน้นของประทานอย่างมาก แต่ไม่สนใจว่าชีวิตคริสเตียนของตนจะแสดงผลของพระวิญญาณหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น การใช้ของประทานก็ไร้ความหมาย
1 คร. 13:1-3 "แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาแปลก ๆ ได้ เป็นภาษามุนย์ก็ดี เป็นภาษาทูตสวรรค์ก็ดี แต่ไม่มีความรักข้าพระเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง แม้ข้าพเจ้าจะผยพระวจนะได้และเข้าใจในความล้ำลึกทั้งปวงและมีความรู้ทั้งสิ้น และมีความเชื่อมากยิ่งที่สุดพอจะยกภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย แม้ข้าพเจ้าจะสละของสารพัดหรือยอมให้เอาตัวข้าพเจ้าไปเผาไฟเสีย แต่ไม่มีความรัก จะหาเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้าไม่."
ในความเป็นจริงเราควรเน้น ทั้งผลพระวิญญาณและของประทาน เพราะนั่นคือสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง
1 คร. 14:1 "จงมุ่งหาความรัก(ผลของพระวิญญาณ) และขวานขวาย ของประทานฝ่ายพระวิญญาณด้วยความจริงใจ."
![]() |
| ผลของพระวิญญาณกาลาเทีย 5:22-23 |
ในพระราชกิจของพระเยซูเราพบว่าพระองค์แสดงฤทธิ์เดชอำนาจมากมาย กิตติศัพย์พระองค์เลื่องลือไปอย่างกว้างขวาง
มธ.4:23-25 "พระเยซูได้เสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาของเขา ทรงประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า และทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บของชาวเมืองให้หายกิตติศัพย์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทั่วประเทศซีเรีย เขาจึงพาคนป่วยเป็นโรคต่าง ๆ คนที่ทนทุกข์เวทนา คนผีเข้า คนเป็นลมบ้าหมูและคนเป็นอัมพาตมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงรักษาเขาให้หาย และมีคนหมู่ใหญ่มาจากแค้วนกาลิลี และแค้วนทศบุรี และกรุงเยรูซาเล็มและแคว้นยูเดีย และแม่นำ้จอร์แดนฟากตะวันออกติดตามพระองค์ไป."
มธ.4:23-25 "พระเยซูได้เสด็จไปทั่วแคว้นกาลิลี ทรงสั่งสอนในธรรมศาลาของเขา ทรงประกาศข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า และทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บของชาวเมืองให้หายกิตติศัพย์ของพระองค์ก็เลื่องลือไปทั่วประเทศซีเรีย เขาจึงพาคนป่วยเป็นโรคต่าง ๆ คนที่ทนทุกข์เวทนา คนผีเข้า คนเป็นลมบ้าหมูและคนเป็นอัมพาตมาหาพระองค์ พระองค์ก็ทรงรักษาเขาให้หาย และมีคนหมู่ใหญ่มาจากแค้วนกาลิลี และแค้วนทศบุรี และกรุงเยรูซาเล็มและแคว้นยูเดีย และแม่นำ้จอร์แดนฟากตะวันออกติดตามพระองค์ไป."
คนทั้งหลายตื่นเต้นกับการอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ และได้ติดตามพระองค์ไปในหลายที่หลายแห่ง ในครั้งนั้นแทนที่พระองค์จะสอนพวกเขาในเรื่องการทำการอัศจรรย์ หรือสอนเรื่องอื่น ๆ ทำนองนั้น แต่พระองค์กลับสอนเรื่องชีวิตที่ถูกต้องอย่างที่บันทึกใน มธ.5 เกี่ยวกับเรื่องการเทศนาบนภูเขา พระองค์ไม่ได้เริ่มต้นเรื่องว่า เราควรทำอะไร แต่เริ่มต้นที่ เราควรเป็นอย่างไร พระองค์สอนเรื่อง ผู้เป็นสุข ไม่ใช่ ผู้มีสุข พระองค์ไม่ได้เริ่มต้นสอนธรรมบัญญัติให้เราทำตามแต่สอนท่าทีภายในเพื่อให้เราเป็นคนที่มีจิตใจถูกต้องภานใน เมื่อภายในถูกต้องภายนอกจะทำออกมาโดยอัตโมัต เราทำสิ่งที่เราเป็น
หลายครั้งคริสเตียนยังตกอยู่ใต้สภาพเดิม คือพยายามสิ่งที่เรารู้ว่าควรทำ แต่ทำไมได้ เรารู้ว่าเราควรอธิษฐาน เราควรอ่านพระคัมภีร์ เราควรเป็นพยาน ฯลฯ แต่เราทำไม่ได้ การที่ทำไม่ได้นั้น ก็เพราะเรายังไม่ได้เป็นสิ่งที่เราควรเป็น เราจึงทำสิ่งที่เราควรทำไม่ได้ การแก้ไขปัญหาชีวิตคริสเตียนภายนอก จึงไม่ใช่การบังคับ และสั่งให้ทำในสิ่งที่ควรทำ แต่เน้นท่าทีเบื้องต้นภานใน
เรารู้อยู่แล้วว่า ท่าทีภายใน จะส่งผลให้เราทำ(ประพฤติ) ภายนอก การจะสำแดงชีวิตคริสเตียนที่ถูกต้องจึงตอ้งเน้นสร้างจากภายใน แล้วชีวิตภายนอกจะถูกต้องไปเอง
ท่าทีภายในที่สำคัญ ๆ ที่จะช่วยเราให้เกิดลักษณะภานนอกที่่พระเจ้าพอพระทัย
ท่าทีถ่อมใจ ท่าทีวางใจ ท่าทีให้อภัย ท่าทีชีวิตบริสุทธิ์ ท่าทีจิตสำนึกชอบ
เมื่อท่าทีเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นแล้ว จะส่งผลภายนอกอย่างมากมาย โดยเฉพาะชีวิตภายนอกที่จะเห็นได้ สามประการคือ
ความชอบธรรม
สันติสุข
ความชื่นชมยินดี
พระคัมภีร์เปรียบเทียบชีวิตของเราเหมือนต้นไม้หลายต่อหลายครั้ง
สดด.52:8 " ฝ่ายข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นมะกอกเขียวสดในพระนิเวศน์ของพระเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในความรักมั่นคงของพระเจ้า เป็นนิจกาล"
ยรม. 17:8 "เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำซึ่งหยั่งรากของมันออกไปข้างลำน้ำ เมื่อแดดส่องมาถึงก็ไม่กลัว เพราะใบของมันคงเขียวอยู่เสมอ และไม่กระวนกระวายในปีที่แห้งแล้ง เพราะมันไม่หยุดที่จะออกผล"
สดด.92:12 "คนชอบธรรม ก็งอกขึ้นอย่างต้นอินทผลัม เจริญขึ้นอย่างต้นสนสีดาร์ในเลบานอน"
สดด. 104:15-16 "และเหล้าองุ่น ซึ่งให้ใจมุนษ์ยินดี น้ำมันเพื่อทำให้หน้าของเขาทอแสง และขนมปังซึ่งเสริมกำลังใจมนุษ์ บรรดาต้นไม้ของพระเจ้าได้อิ่มหนำ คือต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน ซึ่งพระองค์ได้ทรงปลูกไว้"
ผล การกระทำภายนอก
ลำต้น ลักษณะนิสัย
ราก ท่าทีในใจ
ดังนั้นเราจะเน้นแสดงผลของต้นไม้ไม่ได้ เพราะผลจะมีหรือไม่อยู่ที่ลำต้นเป็นอย่างไร และลำต้นจะอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับรากว่ามั่นคง แข็งแรงหรือผุพัง เช่นเดียวกับการดูการกระทำภานนอกของคริสเตียนจะมีผลพระวิญญาณหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัย ลักษณะนิสัยที่ดีจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีท่าทีในใจถูกต้อง
สดด.1:3 "เขาเป็นเช่นต้นไม้ ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำซึ่งเกิดผลตามฤดูกาลและใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น"
เปรียบชีวิตของคนชอบธรรมเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ
อสย.61:3 "เพื่อจัดให้บรรดาผู้ที่ไว้ทุกข์ในศิโยน เพื่อประทานมาลัยแทนขี้เถ้าให้เขา นำ้มันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์ ผ้าห่มแห่งการสรรเสริญแทนจิตใจที่ท้อถอย เพื่อคนจะเรียกเขาว่าต้นก่อหลวงแห่งความชอบธรรมที่ซึ่งพระเจ้าทรงปลูกไว้ เพื่อพระองค์จะทรงสำแดงพระสิริของพระองค์"
#เปรียบชีวิคนในศิโยน(คริสตจักร)เหมือนต้นก่อหลวงซึ่งพระเจ้าทรงปลูก
ยรม.17:7-8 "คนที่วางใจในพระเจ้ายอ่มได้รับพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ ซึ่งหยั่งรากของมันออกไปข้างลำน้ำ เมื่อแดดส่องมาถึงก็ไม่กลัว เพราะใบของมันคงเขียวอยู่เสมอ และไม่กระวนกระวายในปีที่แห้งแล้ง เพราะมันไม่หยุดที่จะออกผล"
#ราก/ต้น/ผล เปรียบเหมือน ท่าทีในใจ/ลักษณะนิสัย/ผลพระวิญญาณแสดงออกภายนอก
สภษ.12:3 "คนจะตั้งอยู่โดยความโหดร้ายไม่ได้ แต่รากของคนชอบธรรมจะไม่รู้จักเคลื่อนย้าย"
สภษ.12:12"หอคอยแข็งแรงของคนชั่วร้ายปรักหักพังสิ้น แต่รากของคนชอบธรรมตั้งมั่นคงอยู่"
สอนให้รู้ว่า เช่นเดียวกับต้นไม้จะมั่นคงอยู่ ออกผลได้ไม่ว่าสถานการณ์จะถูกพัดพาไปอย่างไร ด้วยลมพายุหรือฝน ต้นไม้นั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของราก ชีวิตคริสเตียนของเราสามารถแสดงผลพระวิญญาณได้ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็ยอย่างไร
หลายครั้งคริสเตียนยังตกอยู่ใต้สภาพเดิม คือพยายามสิ่งที่เรารู้ว่าควรทำ แต่ทำไมได้ เรารู้ว่าเราควรอธิษฐาน เราควรอ่านพระคัมภีร์ เราควรเป็นพยาน ฯลฯ แต่เราทำไม่ได้ การที่ทำไม่ได้นั้น ก็เพราะเรายังไม่ได้เป็นสิ่งที่เราควรเป็น เราจึงทำสิ่งที่เราควรทำไม่ได้ การแก้ไขปัญหาชีวิตคริสเตียนภายนอก จึงไม่ใช่การบังคับ และสั่งให้ทำในสิ่งที่ควรทำ แต่เน้นท่าทีเบื้องต้นภานใน
เรารู้อยู่แล้วว่า ท่าทีภายใน จะส่งผลให้เราทำ(ประพฤติ) ภายนอก การจะสำแดงชีวิตคริสเตียนที่ถูกต้องจึงตอ้งเน้นสร้างจากภายใน แล้วชีวิตภายนอกจะถูกต้องไปเอง
ท่าทีภายในที่สำคัญ ๆ ที่จะช่วยเราให้เกิดลักษณะภานนอกที่่พระเจ้าพอพระทัย
ท่าทีถ่อมใจ ท่าทีวางใจ ท่าทีให้อภัย ท่าทีชีวิตบริสุทธิ์ ท่าทีจิตสำนึกชอบ
เมื่อท่าทีเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นแล้ว จะส่งผลภายนอกอย่างมากมาย โดยเฉพาะชีวิตภายนอกที่จะเห็นได้ สามประการคือ
ความชอบธรรม
สันติสุข
ความชื่นชมยินดี
พระคัมภีร์เปรียบเทียบชีวิตของเราเหมือนต้นไม้หลายต่อหลายครั้ง
สดด.52:8 " ฝ่ายข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นมะกอกเขียวสดในพระนิเวศน์ของพระเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในความรักมั่นคงของพระเจ้า เป็นนิจกาล"
ยรม. 17:8 "เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำซึ่งหยั่งรากของมันออกไปข้างลำน้ำ เมื่อแดดส่องมาถึงก็ไม่กลัว เพราะใบของมันคงเขียวอยู่เสมอ และไม่กระวนกระวายในปีที่แห้งแล้ง เพราะมันไม่หยุดที่จะออกผล"
สดด.92:12 "คนชอบธรรม ก็งอกขึ้นอย่างต้นอินทผลัม เจริญขึ้นอย่างต้นสนสีดาร์ในเลบานอน"
สดด. 104:15-16 "และเหล้าองุ่น ซึ่งให้ใจมุนษ์ยินดี น้ำมันเพื่อทำให้หน้าของเขาทอแสง และขนมปังซึ่งเสริมกำลังใจมนุษ์ บรรดาต้นไม้ของพระเจ้าได้อิ่มหนำ คือต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน ซึ่งพระองค์ได้ทรงปลูกไว้"
ผล การกระทำภายนอก
ลำต้น ลักษณะนิสัย
ราก ท่าทีในใจ
ดังนั้นเราจะเน้นแสดงผลของต้นไม้ไม่ได้ เพราะผลจะมีหรือไม่อยู่ที่ลำต้นเป็นอย่างไร และลำต้นจะอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับรากว่ามั่นคง แข็งแรงหรือผุพัง เช่นเดียวกับการดูการกระทำภานนอกของคริสเตียนจะมีผลพระวิญญาณหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัย ลักษณะนิสัยที่ดีจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีท่าทีในใจถูกต้อง
สดด.1:3 "เขาเป็นเช่นต้นไม้ ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำซึ่งเกิดผลตามฤดูกาลและใบก็ไม่เหี่ยวแห้ง การทุกอย่างซึ่งเขากระทำก็จำเริญขึ้น"
เปรียบชีวิตของคนชอบธรรมเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ
อสย.61:3 "เพื่อจัดให้บรรดาผู้ที่ไว้ทุกข์ในศิโยน เพื่อประทานมาลัยแทนขี้เถ้าให้เขา นำ้มันแห่งความยินดีแทนการไว้ทุกข์ ผ้าห่มแห่งการสรรเสริญแทนจิตใจที่ท้อถอย เพื่อคนจะเรียกเขาว่าต้นก่อหลวงแห่งความชอบธรรมที่ซึ่งพระเจ้าทรงปลูกไว้ เพื่อพระองค์จะทรงสำแดงพระสิริของพระองค์"
#เปรียบชีวิคนในศิโยน(คริสตจักร)เหมือนต้นก่อหลวงซึ่งพระเจ้าทรงปลูก
ยรม.17:7-8 "คนที่วางใจในพระเจ้ายอ่มได้รับพร คือผู้ที่ความวางใจของเขาอยู่ในพระเจ้า เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมน้ำ ซึ่งหยั่งรากของมันออกไปข้างลำน้ำ เมื่อแดดส่องมาถึงก็ไม่กลัว เพราะใบของมันคงเขียวอยู่เสมอ และไม่กระวนกระวายในปีที่แห้งแล้ง เพราะมันไม่หยุดที่จะออกผล"
#ราก/ต้น/ผล เปรียบเหมือน ท่าทีในใจ/ลักษณะนิสัย/ผลพระวิญญาณแสดงออกภายนอก
สภษ.12:3 "คนจะตั้งอยู่โดยความโหดร้ายไม่ได้ แต่รากของคนชอบธรรมจะไม่รู้จักเคลื่อนย้าย"
สภษ.12:12"หอคอยแข็งแรงของคนชั่วร้ายปรักหักพังสิ้น แต่รากของคนชอบธรรมตั้งมั่นคงอยู่"
สอนให้รู้ว่า เช่นเดียวกับต้นไม้จะมั่นคงอยู่ ออกผลได้ไม่ว่าสถานการณ์จะถูกพัดพาไปอย่างไร ด้วยลมพายุหรือฝน ต้นไม้นั้นขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของราก ชีวิตคริสเตียนของเราสามารถแสดงผลพระวิญญาณได้ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็ยอย่างไร


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น